สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ จัดให้ทีมประเทศไทยในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พบหารือผู้บริหารและเยี่ยมชมโครงการพัฒนาเกาะ Al Marjan เมกาโปรเจ็คของรัฐราสอัลไคมาห์

สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ จัดให้ทีมประเทศไทยในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พบหารือผู้บริหารและเยี่ยมชมโครงการพัฒนาเกาะ Al Marjan เมกาโปรเจ็คของรัฐราสอัลไคมาห์

วันที่นำเข้าข้อมูล 3 ต.ค. 2568

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 3 ต.ค. 2568

| 12 view
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ จัดให้ทีมประเทศไทยในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พบหารือผู้บริหารและเยี่ยมชมโครงการพัฒนาเกาะ Al Marjan เมกาโปรเจ็คของรัฐราสอัลไคมาห์
 
เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2568 ทีมประเทศไทยในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นำโดยนายสรยุทธ ชาสมบัติ เอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี และนางสาวนิภา นิรันดร์นุต กงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ พร้อมด้วยผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตฯ สถานกงสุลใหญ่ฯ และบริษัท เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล มิดเดิลอีสต์ เทรดดิ้ง แอลแอลซี จำกัด เดินทางเยือนรัฐราสอัลไคมาห์ เพื่อเยี่ยมชมโครงการพัฒนา Al Marjan Island และพบหารือรับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับความคืบหน้าของโครงการจากผู้บริหารบริษัท Marjan ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจผู้ดูแลการพัฒนาโครงการ ประกอบด้วย นาย Abdulla AlAbdouli ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นาย Khaled Assaf ผู้อำนวยการฝ่ายขาย และนาง Eman Saad ผู้จัดการสำนักงานประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
 
โครงการ Al Marjan Island ถือเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การยกระดับและสร้างความหลากหลายทางเศรษฐกิจของรัฐราสอัลไคมาห์ โดยมุ่งเน้นการขยายตัวในภาคบริการและการท่องเที่ยวเป็นหลัก จากการเติบโตอย่างรวดเร็วและการได้รับความสนใจจากนักลงทุนและแบรนด์ชั้นนำระดับโลก จึงคาดว่าโครงการนี้จะมีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้รัฐราสอัลไคมาห์สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากกว่า 4.1 – 4.3 ล้านคน ภายในปี 2573
 
โครงการ Al Marjan เป็นเกาะเทียมรูปปะการัง เชื่อม 4 เกาะ ขนาดพื้นที่กว่า 2.7 ล้านตารางเมตร ทอดตัวยาวในทะเลอาหรับระยะทางประมาณ 4.5 กิโลเมตร ได้รับการออกแบบให้เป็นโครงการ luxury mixed-use ประกอบด้วยที่พักอาศัย โรงแรม ศูนย์การค้า และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ รวมถึงโครงการรีสอร์ต Wynn Al Marjan Island รีสอร์ตครบวงจร (Integrated Resort) ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างรัฐบาลรัฐและ Wynn Las Vegas ในสัดส่วน 60 ต่อ 40 มีมูลค่าการลงทุนร่วม 5 พันล้านดอลลาร์ ประกอบด้วยห้องพัก 1,542 ห้อง พร้อมวิลล่าส่วนตัว พื้นที่คาสิโน ร้านค้า ท่าจอดเรือ และศูนย์ประชุมและแสดงสินค้าขนาดใหญ่ โดยมุ่งหวังให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวด้านคาสิโนระดับโลกแห่งใหม่ เทียบเคียงกับเมืองสำคัญอย่างลาสเวกัส สิงคโปร์ และมาเก๊า โดยปัจจุบันการก่อสร้างรีสอร์ทในส่วนของอาคารสูง 72 ชั้นใกล้เสร็จสมบูรณ์ และโครงการทั้งหมดมีกำหนดเปิดให้บริการในเดือนมีนาคม 2570
 
ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตฯ และกงสุลใหญ่ฯ ได้แสดงความชื่นชมเจ้าผู้ครองรัฐและผู้บริหารของรัฐราสอัลไคมาห์ที่มีวิสัยทัศน์และประสิทธิภาพในการบริหาร megaproject ขนาดใหญ่นี้จนสามารถดึงดูดการลงทุนมหาศาลจากต่างประเทศและขับเคลื่อนให้โครงการมีความก้าวหน้า พร้อมทั้งแสดงความพร้อมของทีมประเทศไทยในยูเออีที่จะช่วยส่งเสริมความร่วมมือการค้าการลงทุนระหว่างภาคเอกชนไทยและรัฐราสอัลไคมาห์ โดยเฉพาะสาขาที่มีศักยภาพ ได้แก่ hospitality บริการ การดูแลสุขภาพ/สปา และ retail ตลอดจนจะผลักดันให้มีการจัดทำความตกลงความร่วมมือระหว่างหอการค้าไทย-หอการค้ารัฐราสอัลไคมาห์ต่อไป
 
 
 
 
 
 

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ