สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ จัดงาน “A Night of Sustainable Thai Gastronomy in Dubai” ชูศักยภาพประเทศไทยในฐานะครัวโลกที่มีความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนและความมั่นคงทางอาหาร
เมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๖๗ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ จัดงาน “A Night of Sustainable Thai Gastronomy in Dubai” ในเมืองดูไบ โดยมีนางสาวนิภา นิรันดร์นุต กงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ เป็นเจ้าภาพ เพื่อนำเสนอความมุ่งมั่นและบทบาทของประเทศไทยต่อความยั่งยืนและความมั่นคงทางอาหาร ผ่านการนำเสนออาหารไทยในรูปแบบของความยั่งยืน (Sustainable Thai Gastronomy) และการเล่าเรื่องโดยเชฟดวงพร (โบ) ทรงวิศวะและเชฟดีแลน โจนส์ (Dylan Jones) แห่ง DuangDy by Bo.Lan ร้านอาหารไทย fine-dining แห่งใหม่ที่ได้รับเลือกเป็นหนึ่งใน Michelin-Selected venue ของเมืองดูไบปีล่าสุด
งานนี้ได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ นายสรยุทธ ชาสมบัติ เอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบีและผู้แทนระดับสูงจากภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ ร่วม ๕๐ คน เข้าร่วมงาน ทั้งภาครัฐ คณะกงสุลใหญ่ต่างประเทศ ภาคเอกชน และสื่อมวลชน รวมทั้งสำนักงานทีมประเทศไทยประจำยูเออี อาทิ H.E. Eng. Rashid Abdulla Al Qaseer, Deputy Director กระทรวงการต่างประเทศยูเออี สำนักงานดูไบ H.E. Mr. Shehab Gin Nouri, Government Relations Manager, และ H.E. Mr. Zaher Bin Majid, Director จากสำนักงาน Private Office ของ H.H. Sheikh Hamdan Bin Ahmed Al Maktoum กงสุลใหญ่สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น เยอรมนี และศรีลังกา ตลอดจนผู้แทนระดับสูงจากกรมการพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐดูไบ และสภาหอการค้ารัฐรัสอัลไคมาห์
ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี ได้กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมงาน และกล่าวถึงวิสัยทัศน์ IGNITE THAILAND ของนายกรัฐมนตรี ที่มุ่งผลักดันไทยให้เป็นศูนย์กลางใน ๘ ด้าน โดยด้านหนึ่งที่สำคัญคือ ศูนย์กลางอาหาร (Agriculture & Food Hub) ศักยภาพของไทยที่มีทรัพยากรธรรมชาติมากมายและภาคเกษตรกรรมที่เข้มแข็ง จะสามารถส่งเสริมความมั่นคงทางอาหารของโลก ในฐานะครัวของโลกได้ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่มุ่งส่งเสริมความยั่งยืนและนวัตกรรมทางอาหารและการเกษตร
จากนั้น กงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ ได้กล่าวบรรยายในหัวข้อ Thailand’s Commitments to Food Sustainability and Role in Supporting Global Food Security นำเสนอศักยภาพและความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมด้านอาหารและการเกษตรของไทย ในฐานะผู้ส่งออกอาหารลำดับ ๑๒ ของโลก และผู้ผลิตสินค้าอาหารและเกษตรสำคัญหลักของโลก กงสุลใหญ่ฯได้ย้ำถึงความมุ่งมั่นของภาครัฐและภาคประชาชนทุกภาคส่วนของไทยที่จะบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน ผ่านนวัตกรรมเกษตรกรรมแบบ climate-smart และ precision farming ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีการผลิตสินค้าอาหารที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นอกจากนี้ ได้ย้ำถึงนโยบายของรัฐบาลในการสนับสนุนการขยายจำนวนร้านอาหารไทยในต่างประเทศ และการเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวด้านอาหารที่สำคัญของโลก โดยนำเสนอร้านอาหารไทยที่ปรากฏในรายชื่อ World Top 50 Best Restaurants และ Michelin Guide Thailand 2024 ที่มีร้านมากถึง ๔๔๗ ร้าน และน่ายินดีที่อาหารไทยได้รับความนิยมมากเช่นกันในยูเออี โดยมีร้านอาหารไทยมากถึง ๒๐๐ ร้าน และมีการก่อตั้งชมรมเชฟไทยในดูไบ (Thai Professional Culinary Club in Dubai) ตลอดจนการรับรองตรามาตรฐาน Thai SELECT แก่ร้านอาหารไทยกว่า ๓๙ แห่ง
นอกจากนี้ เชฟโบ ดวงพร ทรงวิศวะ ได้นำเสนอ Presentation ในหัวข้อ Toward Holistic Sustainability Gastronomy นำเสนอแนวคิดและขั้นตอนการดำเนินธุรกิจด้านอาหารที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม การลดขยะ การคำนึงถึงประโยชน์ของสังคมและชุมชน โดยได้นำเสนอเทคนิคและกรรมวิธีต่าง ๆ ในการบริหารจัดการธุรกิจอาหารที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ เชฟโบและเชฟดีแลนได้นำเสนออาหารแบบ Fine Dining ที่ปรุงอย่างพิถีพิถันโดยทีมงานของ DuangDy สร้างความประทับใจอย่างยิ่งแก่ผู้เข้าร่วมงาน
ในโอกาสนี้ กงสุลใหญ่ฯ ได้มอบต้นมะกรูด organic ที่เพาะขึ้นในสวนที่บ้านพักกงสุลใหญ่ฯ ให้แก่เชฟโบเพื่อนำไปปลูกในสวนที่อยู่ในบริเวณโรงแรมและใช้เป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารต่อไป และมอบหนังสือตำราประกอบอาหาร Err: Urban Rustic Thai ซึ่งแต่งโดยเชฟโบและเชฟดีแล่น เพื่อเป็นที่ระลึกแก่ผู้ร่วมงานด้วย